ระบบการคลัง



        ระบบการคลัง
ผู้จัดการฝ่ายคลัง
Ø สามารเรียกดูข้อมูลออเดอร์จากระบบการขายได้ แต่ไม่สามารถเพิ่ม ลบ แก้ไขได้
Ø สามารถเรียกดูข้อมูลการเบิกสินค้าย้อนหลังได้
Ø สามารถเรียกดูข้อมูลการเพิ่ม ลบ แก้ไขสินค้าย้อนหลังได้
Ø สามารเรียกดูสินค้าคงเหลือได้
พนักงานคลัง
Ø สามารถเพิ่ม ลบ แกไขข้อมูลสินค้าในคลังได้
Ø สามารถเพิ่ม ลบ แก้ไขข้อมูลสินค้าได้
Ø สามารถเรียกดูสินค้าคงเหลือได้
Ø สามารถทำใบเบิกสินค้าได้
การเสนอแนวทางเลือกในการนำระบบพัฒนาระบบการคลังมาใช้งาน
                  หลังจากที่ได้วิเคราะห์ระบบเดิม และความต้องการของระบบใหม่ที่ทีมงานได้รวบรวมจากผู้ใช้ที่เกี่ยวข้องดังกล่าว และผ่านการอนุมัติให้ดำเนินโครงการแล้ว จากนั้นจึงได้จำลองขั้นตอนการทำงานของระบบใหม่มานำเสนอให้ผู้บริหารและผู้ใช้ระบบเพื่อตรวจสอบความถูกต้องและนำมาแก้ไขให้ตรงตามความต้องการ 


การประเมินแนวทางเลือกที่ 1
                ทางทีมงานได้ทำการประเมินผลแนวทางเลือกซอฟต์แวร์ที่เหมาะสม โดยกำหนดเกณฑ์การให้น้ำหนัก (คะแนน) เชิงปริมาณเปรียบเทียบไว้เป็น 4 ระดับ ดังนั้น
น้ำหนักเท่ากับ 4 ช่วงคะแนน 100-90 เปอร์เซ็นต์ เกณฑ์ที่ได้ ดีมาก
น้ำหนักเท่ากับ 3 ช่วงคะแนน 89-70 เปอร์เซ็นต์ เกณฑ์ที่ได้ ดี
น้ำหนักเท่ากับ 2 ช่วงคะแนน 69-50 เปอร์เซ็นต์ เกณฑ์ที่ได้ พอใช้
น้ำหนักเท่ากับ 1 ช่วงคะแนน 49-30 เปอร์เซ็นต์ เกณฑ์ที่ได้ ปรับปรุง


สรุปผลการประเมินแนวทางเลือกที่ 1
                สรุปผลการประเมินแนวทางเลือกและคัดเลือกซื้อ Software A มาใช้งาน เนื่องจากมีความเหมาะสมและตรงกับความต้องการมากที่สุด
การประเมินแนวทางเลือกที่ 2
ทางทีมงานได้ทำการประเมินผลแนวทางเลือกว่าจ้างบริษัทภายนอก เพื่อพัฒนาระบบที่เหมาะสม โดยกำหนดเกณฑ์การให้น้ำหนัก (คะแนน) เชิงปริมาณเปรียบเทียบไว้เป็น 4 ระดับดังนี้
น้ำหนักเท่ากับ 4 ช่วงคะแนน 100-90 เปอร์เซ็นต์ เกณฑ์ที่ได้ ดีมาก
น้ำหนักเท่ากับ 3 ช่วงคะแนน 89-70 เปอร์เซ็นต์ เกณฑ์ที่ได้ ดี
น้ำหนักเท่ากับ 2 ช่วงคะแนน 69-50 เปอร์เซ็นต์ เกณฑ์ที่ได้ พอใช้
น้ำหนักเท่ากับ 1 ช่วงคะแนน 49-30 เปอร์เซ็นต์ เกณฑ์ที่ได้ ปรับปรุง
สรุปผลการประเมินแนวทางเลือกที่ 2
                สรุปผลการประเมินแนวทางเลือกและคัดเลือกว่าจ้างบริษัทติดตั้งระบบ A  มาใช้งาน เนื่องจากมีความเหมาะสมและตรงกับความต้องการมากที่สุด

การประเมินแนวทางเลือกที่ 3
                ไม่มีการประเมิน เพราะไม่มีการเปรียบเทียบ

สรุปผลการประเมินแนวทางเลือกที่ 3
                ทางทีมงานพิจารณาแล้วว่า มีขีดความสามารถที่จะพัฒนาระบบได้ตามข้อกำหนดคุณสมบัติทางเทคนิคและความต้องการของผู้ใช้งานตามที่จัดทำโดยใช้ระยะเวลาดำเนินการจำนวนทั้งสิ้น 4 เดือนและมีค่าใช้จ่ายในการดำ เนินงานจำนวนเงินทั้งสิ้น 220,000 บาท (ค่าเงินเดือน ค่าอุปกรณ์ ค่าล่วงเวลา ค่าเบ็ดเตล็ดและค่าสำรองฉุกเฉินเป็นต้น)



 ผู้บริหารเลือกแนวทางที่ดีที่สุด
                หลังจากหัวหน้าทีมงานได้เสนอแนวทางเลือกโดยจัดทำข้อมูลเปรียบเทียบและข้อเสนอแนะแก่ทีม
ผู้บริหาร โดยใช้กฎเกณฑ์การให้น้ำหนัก (คะแนน) ดังตารางต่อไปนี้
สรุปผลการประเมินโดยทีมงานผู้บริหาร
               ทางทีมงานผู้บริหารได้พิจารณาตัดสินใจเลือกแนวทางการใช้ทีมงานเดิมพัฒนและติดตั้ง เนื่องจากมีความเหมาะสมและตรงกับความต้องการมากที่สุด นอกจากจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานและความคุ้มค่าในการลงทุนแล้ว ยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีของพนักงานภายในบริษัท พร้อมทั้งได้กำหนดมาตรการและมอบหมายแก่ผู้บังคับบัญชาโดยตรง คอยควบคุมดูแลทีมงานพัฒนาให้ดำเนินการเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่วางไว้

ขั้นตอนที่ 2
การเริ่มต้นและวางแผนโครงการ
เป้าหมาย
                นำระบบสารสนเทศเพื่อการพัฒนาระบบการคลังบริษัทเพื่อลดภาวะของฝ่ายการคลัง
วัตถุประสงค์
                โครงการพัฒนาระบบการคลัง มีวัตถุประสงค์ของการดำเนินงานเพื่อวิเคราะห์ ออกแบบ และพัฒนาให้เป็นระบบการคลังที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้อย่างประสิทธิภาพ

 ขอบเขตของระบบ
                โครงการพัฒนาระบบการพัฒนาระบบการคลังของบริษัทได้มีการจัดทำขึ้นโดยใช้ทีมงานพัฒนาและติดตั้งระบบมารับผิดชอบโครงการ พร้อมกันนี้ได้กำหนดขอบเขตของระบบ มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
Ø ระบบจะต้องรองรับการทำงานแบบ Multi-User ได้
Ø ระบบจะต้องเกิดข้อผิดพลาดน้อยที่สุดต่อการทำงาน
Ø ระบบจะต้องใช้งานง่ายและสะดวก
Ø ระบบจะต้องเกิดข้อผิดพลาดน้อยที่สุดต่อการทำงาน
Ø ระบบจะต้องมีความถูกต้องและแม่นยำที่สุด
ปัญหาที่พบจากระบบเดิม
Ø การเก็บรวบรวมข้อมูลวัตถุดิบและการค้นหาข้อมูลวัตถุดิบเกิดความซ้ำซ้อน
Ø การจัดเก็บข้อมูลของสินค้าไม่เป็นระบบ
Ø ข้อมูลที่ได้ไม่มีความแน่นอนและชัดเจน
Ø เนื่องจากเป็นระบบที่มีความเปลี่ยนแปลงของข้อมูลอยู่ตลอดเวลาทำให้ข้อมูลเกิดความเสียหายและสูญเสียได้
Ø การทำงานของพนักงานแต่ละฝ่ายไม่มีความแน่นอน
ความต้องการในระบบใหม่
Ø ความรวดเร็วของระบบใหม่ในการทำงาน
Ø สามารถเก็บข้อมูลเกี่ยวกับรายการสินค้าและตรวจสอบข้อมูลได้
Ø สามารถเพิ่ม ลบ แก้ไข เปลี่ยนแปลงข้อมูลได้
Ø สามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว
Ø การเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของพนักงานทุกฝ่าย
ประโยชน์ที่ได้รับจากระบบใหม่
Ø บริษัทสามารถตรวจสอบ รายการเพิ่ม ลบ แก้ไข ข้อมูลสินค้าได้
Ø บริษัทสามารถทราบยอดการเบิกสินค้าออกจากคลังได้
Ø บริษัทมีผลการดำเนินการที่ดีขึ้น
Ø ขั้นตอนการทำงานของระบบการคลังในบริษัทที่มีความรวดเร็ว
Ø ลดระยะเวลาในการทำงาน
Ø การทำงานของพนักงานเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ

แนวทางในการพัฒนา
                การพัฒนาระบบของบริษัท มาร์เก็ตเชนโร จำกัด เป็นการพัฒนาระบบในส่วนของการขายและในส่วนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น สั่งซื้อสิ้นค้า ตรวจสต็อกสินค้า ซึ่งบางครั้งการทำงานของขั้นตอนต่างๆ อาจมีข้อมูลหรือเอกสารที่ซับซ้อนกันหลายขั้นตอน ดังนั้นจึงได้วิเคราะห์ระบบใหม่เพื่อความสะดวกและมีประสิทธิภาพต่อการทำงาน เมื่อพิจารณาถึงขั้นตอนการดำเนินงานให้เหมาะสมกับบริษัทสามารถแบ่งได้ทั้งหมด 7 ขั้นตอน
                1. การค้นหาและเลือกสรรโครงการ
                2. การเริ่มต้นและวางแผนโครงการ
                3. การวิเคราะห์ระบบ
                4. กรออกแบบเชิงตรรกะ
                5. การออกแบบเชิงกายภาพ
                6. การพัฒนาและติดตั้งระบบ
                7. การซ่อมบำรุงระบบ
ขั้นตอนที่ 1  การค้นหาและเลือกสรรโครงการ ( Project Identification and Selection )
เป็นขั้นตอนในการค้นหาโครงการเพื่อพัฒนาระบบใหม่ให้เหมาะสมกับระบบเดิมหรือให้เหมาะสมกับองค์กรที่มีการเปลี่ยนแปลงหรือต้องการระบบเพื่อนำมาใช้ในการบริหารงานในส่วนที่เกิดความบกพร่องของบริษัทเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุดในการทำงานขององค์กร ดังนั้น จึงได้ยกตัวอย่างบริษัทที่ต้องการพัฒนาระบบ คือ บริษัท ธาราทิพย์ จำกัด ข้อมูลดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นในส่วนของระบบที่ต้องการแก้ไขคือ
Ø ระบบการคลัง
ขั้นตอนที่ 2 การเริ่มต้นและวางแผนโครงการ
                 เป็นขั้นตอนในการเริ่มต้นทำโครงการด้วยการเริ่มต้นจัดตั้งทีมงาน ซึ่งเราจะต้องกำหนดหน้าที่ให้กับทีมงานแต่ละคนอย่างชัดเจนเพื่อร่วมกันสร้างแนวทางเลือกในการนำระบบใหม่มาใช้งานและนอกจากขั้นตอนดังกล่าวแล้วยังมีขั้นตอนอื่นอีกมากที่เกี่ยวข้องซึ่งเราสามารถสรุปกิจกรรมในขั้นตอนได้ดังนี้
Ø เริ่มต้นทำโครงการ ก่อนเริ่มทำโครงการเราควรศึกษาระบบเดิมในการทำงานก่อน
Ø กำหนดวัตถุประสงค์หรือทางเลือกในการนำระบบใหม่มาใช้
Ø วางแผนการทำงานของระบบใหม่

 ขั้นตอนที่ 3 การวิเคราะห์
1. ศึกษาขั้นตอนการทำงานของระบบเดิมว่าการทำงานของบริษัท  มีการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้อย่างไรและเหตุใดจึงต้องมีการเปลี่ยนแปลงระบบเดิม  และระบบที่เปลี่ยนแปลงนี้จะเปลี่ยนในส่วนของระบบการสั่งซื้อสินค้า
2. การรวบรวมความต้องการในระบบใหม่จากผู้ใช้ระบบ  ศึกษาหรือสอบถามข้อมูลของระบบเดิมจากพนักงานหรือผู้ใช้ระบบ
3. จำลองแบบความต้องการที่รวบรวมได้  เมื่อรวบรวมข้อมูลได้แล้วก็สามารถออกแบบจำลองดังกล่าวได้   ด้วยวิธีการใดก็ได้ที่นักวิเคราะห์ระบบนำมาใช้ในการทำงานของระบบ
ขั้นตอนที่ 4 การออกแบบเชิงตรรกะ
                เป็นการออกแบบขั้นตอนการทำงานของระบบในแต่ละส่วนงานหรือแต่ละแผนกของงาน  ซึ่งในการออกแบบระบบงานที่ได้ในแต่ละงานจะไม่เหมือนกันซึ่งอาจจะมีแบบฟอร์ม หรือผลลัพธ์ที่ได้เมื่อเราวิเคราะห์ระบบงานเสร็จเรียบร้อยแล้ว
ขั้นตอนที่ 5 การออกแบบเชิงกายภาพ
                ในขั้นตอนนี้เป็นการทำงานของระบบในส่วนของเทคนิคของโปรแกรมหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ ที่นำมาใช้ในการปรับปรุงระบบอาจจะเป็นระบบเครือข่าย  ฐานข้อมูล  โปรแกรมสำเร็จรูป  เพื่อให้ผู้ใช้งานระบบสามารถเข้าใจขั้นตอนการทำงานมากขึ้นและมีความรวดเร็ว  ซึ่งสิ่งที่ได้ในส่วนนี้จะเป็นแค่การออกแบบหลังจากนั้นจะทำการส่งให้โปรแกรมเมอร์ต่อไป
ขั้นตอนที่ 6 การพัฒนาและติดตั้งระบบ
                 ขั้นตอนนี้จะนำข้อมูลเฉพาะในส่วนที่ต้องการออกแบบของระบบมาทำการเขียนโปรแกรม  เพื่อให้เป็นไปตามคุณลักษณะที่ต้องการของระบบงานใหม่  อาจนำโปรแกรมที่เขียนสำเร็จรูปแล้วมาใช้งานในระบบก็ได้ หรือจัดทำโปรแกรมขึ้นมาเอง แต่อาจจะมีความยุ่งยาก  หลังจากเขียนโปรแกรมแล้วเราก็ควรทำการทดลองว่าโปรแกรมใช้งานได้เหมาะสมกับการทำงานของบริษัทหรือไม่ ซึ่งในขั้นตอนมีกระบวนการทำงานดังนี้
1.             เขียนโปรแกรม
2.             ทดสอบโปรแกรม
3.             ติดตั้งระบบ
4.             จัดทำเอกสาร สรุปผลการทำงานของระบบ

 ขั้นตอนที่ 7 การซ่อมบำรุงระบบ
                 อาจจะเป็นขั้นตอนสุดท้ายในการปรับปรุงระบบ  เพราะหลังจากได้ระบบใหม่มาแล้ว  เราก็นำเอาระบบที่ได้มานี้ทำการแก้ไขหากระบบที่ได้มาเกิดข้อผิดพลาด
แผนการดำเนินงานของโครงการ
                 แผนการดำเนินงานของโครงการที่ต้องการวิเคราะห์ระบบที่มีการเปลี่ยนแปลง  คือ ระบบการคลังมีส่วนที่เกี่ยวข้องมีดังต่อไปนี้
Ø ทีมงานผู้รับผิดชอบโครงการ
Ø ประมาณการใช้ทรัพยากร
Ø ประมาณการใช้งบประมาณ
Ø ประมาณระยะเวลาดำเนินงาน
ทีมงานรับผิดชอบโครงการ
ทีมงานผู้รับผิดชอบโครงการที่จะได้รับมอบหมาย คือ บุคลากรแผนกคอมพิวเตอร์ทั้ง  3 คน จะดำรงตำแหน่งหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ดังต่อไปนี้
                - นักวิเคราะห์และออกแบบระบบ ทำหน้าที่ในการวิเคราะห์และออกแบบระบบ ตลอดจนเก็บรวบรวมข้อมูลและติดต่อประสานงานระหว่างผู้ใช้กับทีมโปรแกรมเมอร์ จัดทำเอกสารของระบบ ทดสอบโปรแกรมของระบบ และอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
 - โปรแกรมเมอร์ ทำหน้าที่ในการเขียนและติดตั้งโปรแกรมของระบบ รวมทั้งทดสอบโปรแกรมและพัฒนาตัวต้นแบบเพื่อสอบถามความคิดเห็นและผลการตอบรับจากผู้ใช้ระบบ
ประมาณการใช้แหล่งทรัพยากร
                        1. เครื่องแม่ข่าย server จำนวน 1 เครื่อง
                2. เครื่องลูกข่าย (Workstation)  7 เครื่อง
                3. เครื่องพิมพ์ (Printer) จำนวน 2 เครื่อง
                4. อุปกรณ์ต่อพ่วง 7 ชุด (ตามความเหมาะสม)


สรุปแล้วงบประมาณที่ใช้พอสรุปในของแต่ละฝ่ายได้ดังนี้
1. ผู้จัดการ
ค่าตอบแทนสำหรับทีมงานพัฒนา
                นักวิเคราะห์และออกแบบระบบโปรแกรมเมอร์                                              203,000    บาท
2. พนักงาน
                ฝึกอบรมและพัฒนาผู้บริหาร 10 คน                                                                    1,500    บาท
                วันฝึกอบรมผูดูแลระบบ                                                                                      1,000    บาท

3. จัดซื้ออุปกรณ์คอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์
                เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้เป็น workstation                                                           55,000     บาท
                อื่นๆ                                                                                                                  13,000     บาท
4. ค่าใช้จ่ายระหว่างดำเนินงาน
                ค่าบำรุงระบบ                                                                                                    45,000     บาท
                จัดชื่อเก็บข้อมูลสำรอง                                                                                        2,000     บาท
                                                                                รวม                                                  320,500     บาท

ประมาณการระยะเวลาดำเนินงาน
                ระยะเวลาการดำเนินงานของโครงการระบบการขาย จะใช้เวลาประมาณ 30 วัน ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2558 ถึง 1 เมษายน 2558 เป็นระยะเวลาในการดำเนินงานของการพัฒนาระบบการขายของบริษัท
ระยะเวลาดำเนินงาน
Ø เฉพาะวันทำการ คือวันจันทร์-ศุกร์ ไม่นับวันหยุดนักขัตฤกษ์และวันเสาร์-อาทิตย์
Ø จำนวนชั่วโมงจริงในการทำงานในแต่ละวัน หรือส่วนหนึ่งของการประมาณระยะเวลาที่กำหนดไว้ นั่นคือ 8 ชั่วโมงต่อวัน ไม่รวมช่วงพักเที่ยง
รายงานสรุปผลสำหรับผู้บริหาร
                 จากการที่ได้ศึกษาโครงการส่งเสริมการขายปัญหาที่พบในระบบ ซึ่งอาจจะส่งผลต่อการปฏิบัติงานของบริษัท พนักงาน และอาจจะส่งผลต่อลูกค้า เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของการปฏิบัติงาน ในด้านการบริการ และทางระบบสารสนเทศ ทางบริษัทจึงต้องจัดทำแผนพัฒนาระบบใหม่ขึ้น เพื่อที่จะนำไปพัฒนา



                                                                                              ขั้นตอนที่ 4
แบบจำลองขั้นตอนการทำงานของระบบ (Process Modeling )

แบบจำลองขั้นตอนการทำงานของระบบพัฒนาระบบการคลัง บริษัท มาร์เก็ตเชนโร จำกัด ขั้นตอนวิเคราะห์ความต้องการของระบบใหม่ (System Requirement Structuring)                                               


 อธิบาย Context Diagram คลังสินค้า
เริ่มแรก การเข้าใช้โปรแกรม โดยที่จะต้องทำการ Login เข้าใช้งานระบบก่อน
Context Diagram o นี้จะเป็นการทำงานที่เกี่ยวข้องกับพนักงานและผู้จัดการฝ่ายการคลัง โดยที่
พนักงาน พนักงานคลังจะป้อนข้อมูลต่างๆให้กับระบบคลังสินค้า คือ
1.เพิ่มข้อมูล สินค้า
2.ลบ ข้อมูลสินค้า
3.แก้ไข ข้อมูลสินค้า
เมื่อมีการ เพิ่ม ลบ แก้ไข ข้อมูลเข้าสู่ระบบคลังสินค้า ระบบก็จะมีการยืนยันบอกกลับมาที่พนักงาน
4.เรียกดูข้อมูลสินค้าในคลัง
พนักงานสามารถเรียกดูข้อมูลสินค้าในคลังได้และ สามารถ ดูรายละเอียดของสินค้าแต่ละชิ้นได้ เช่น ชื่อ ราคา ประเภท และจำนวนที่มี
5. เพิ่มข้อมูลการนำสินค้า เก็บเข้าคลัง
เมื่อพนักงาน ทำการเพิ่มข้อมูลการนำสินค้า เก็บเข้าคลังระบบคลังสินค้า ก็จะมีการทำรายงานรายงานข้อมูลการนำสินค้า เก็บเข้าคลังกลับมาให้พนักงาน
6.เพิ่มข้อมูลการเบิกสินค้า ออกจากคลัง
เมื่อพนักงานทำการเพิ่มข้อมูลการเบิกสินค้าออกจากคลังระบบคลังสินค้าจะทำการทำใบเบิกสินค้าออกจากคลังมาให้ที่พนักงาน
ผู้จัดการฝ่ายการคลัง ผู้จัดการฝ่ายการคลัง ผู้จัดการจะไม่ใช่คนที่ เพิ่มข้อมูลแต่จะเป็นผู้ที่เรียกดูข้อมูล ที่ พนักงานได้ทำการเพิ่มลบแก้ไขข้อมูลต่าง คือ
1. เรียกดู ข้อมูลการนำสินค้าเก็บเข้าคลัง
2. เรียกดู ข้อมูลจำนวนสินค้าทั้งหมดในคลัง
3. เรียกดูข้อมูลการเบิกสินค้าออกจากคลัง

อธิบาย Dataflow Diagram Level 0 จาก Context Diagram สามารถแบ่งขั้นตอนการทำงานภายในระบบออกเป็น 4 ระบบ ดังนั้นจึงแยก Process ที่เกี่ยวข้องกับระบบ ดังรายละเอียดต่อไปนี้
Process 1.0 เป็นระบบการเข้าใช้งานระบบโดยที่จะต้องLogin เข้าใช้งานระบบก่อนจึงเข้าไปใช้งานระบบอื่นๆได้
Process 2.0 ระบบ เพิ่ม ลบ แก้ไข ข้อมูลสินค้า เป็นระบบจัดการเกี่ยวกับสินค้าทั้งหมด สามารถอธิบายข้อมูลเข้าและออกจากProcess ดังนี้ เมื่อ พนักงานคลัง ทำการ เพิ่ม ลบ แก้ไข ข้อมูลสินค้าโดยที่ กรอกข้อมูลเข้าระบบ เมื่อ มีข้อมูลเข้ามาที่ระบบ ระบบจะทำการนำข้อมูลที่ได้รับไปบันทึกที่แฟ้มข้อมูล ของ ข้อมูลสินค้า แล้วระบบก็จะทำการส่งการยืนยันการเพิ่มข้อมูลสินค้ากลับมาที่พนักงาน และ ถ้า พนักงานต้องการแก้ไข ข้อมูลสินค้า จะต้องเรียกดูข้อมูลที่ต้องการแก้ไขก่อนแล้วจึงทำการแก้ไขได้จากนั้นระบบจะทำการบันทึกการแก้ไขพร้อมกับส่งการยืนยันการแก้ไขข้อมูลกลับมาที่พนักงาน
Process 3.0 ระบบ เพิ่มข้อมูลการนำสินค้าเก็บเข้าคลัง เป็นระบบที่ ทำหน้าที่ เก็บข้อมูลการนำสินค้าเข้าเก็บในคลังสินค้าซึ่งระบบจะทำงานโดย ที่ พนักงาน เพิ่มข้อมูล การนำสินค้าเข้าเก็บในคลังสินค้า ว่ามี สินค้าอะไรบ้างประเภทอะไรบ้าง จำนวนเท่าไร ระบบจะนำข้อมูลไปจัดเก็บเข้าแฟ้มข้อมูล ของ ข้อมูลการนำสินค้าเก็บเข้าคลังแล้ว ระบบจะทำการส่ง รายงาน ข้อมูลการนำสินค้าเข้าเก็บในคลัง
Process 4.0 ระบบ เพิ่มข้อมูลการเบิกสินค้าออกจากคลัง เป็น ระบบหน้าที่ในการ ออกใบเบิกสินค้าออกจากคลังโดย ที่ให้พนักงาน ทำการเพิ่มข้อมูลสินค้าที่ต้องการเบิกลงในระบบการเพิ่มข้อมูลการเบิกสินค้าออกจากคลัง แล้วระบบ จะทำการบันทึก ข้อมูลในแฟ้มข้อมูล จากนั้นระบบจะทำการ ออกใบเบิกสินค้าให้ กับพนักงาน


Data flow Diagram Level 1 of Process 2.0 ระบบเพิ่ม ลบ แก้ไข ข้อมูลสินค้า



 อธิบาย Data flow Diagram Level 1
Process 1.1 เป็นการรับข้อมูลเข้ามาตรวจเช็คกับฐานข้อมูลว่าตรงกันหรือไม่เพื่อเป็นการป้องกันการแอบอ้างการเข้าใช้งานระบบ
Process 1.2 เมื่อเกิดการผิดพลาด ระบบจะแจ้งกลับว่าการเข้าระบบผิดพลาดจะไม่สามารถเข้าใช้งานระบบได้
Process 1.3 เมื่อมีการเข้าใช้งานระบบสำเร็จ ระบบจะทำการแจ้งกลับ ว่าเข้าระบบสำเร็จแล้วก็จะเริ่มใช้งานระบบต่างๆได้
Process 2.1 ได้รับข้อมูลการเพิ่มสินค้าจากพนักงาน จะนำข้อมูลไปบันทึกลงในแฟ้มข้อมูลสินค้า และจะส่งการยืนยันการเพิ่มข้อมูลกลับไปให้พนักงาน
Process 2.2 เมื่อมีการเรียกดูข้อมูลจากพนักงาน Process 1.2 จะทำการเรียกดูข้อมูลจากแฟ้มข้อมูลสินค้ามาแสดงให้พนักงานและจะส่งต่อให้ Process ถัดไป
Process 2.3 เมื่อมีการเรียกดูข้อมูลผ่าน Process 1.2 แล้วพนักงานสามารถ แก้ไขข้อมูลที่แสดงขึ้นมาได้ Process 1.3 จะทำการส่งข้อมูลที่ถูกแก้ไขไปบันทึกทับข้อมูลเดิมที่แฟ้มข้อมูลสินค้า
Process 2.4 เมื่อมีการเรียกดูข้อมูลผ่าน Process 1.2 แล้วพนักงานสามารถ ลบข้อมูลที่แสดงขึ้นมาได้ Process 1.4 จะทำการลบข้อมูลที่ถูกเลือกออกจากแฟ้มข้อมูลสินค้า
Process 3.1 เมื่อได้รับการเพิ่มข้อมูลการนำสินค้าเข้าเก็บที่คลัง Process 2.1 จะทำการเพิ่มข้อมูลการนำสินค้าเข้าคลังลงแฟ้มข้อมูล
Process 3.2 เมื่อมีการเพิ่มข้อมูลจาก Process 2.1 แล้วเก็บบันทึกข้อมูลลงในแฟ้มข้อมูล Process 2.2 จะทำการนำข้อมูลที่ถูกบันทึกมาพิมพ์รายงานส่งกลับไปให้กับพนักงาน
Process 4.1 เมื่อมีการเพิ่มข้อมูลการเบิกสินค้าออกจากคลัง Process 3.1 จะทำการนำข้อมูลที่ได้รับมาไปบันทึกลงในแฟ้มข้อมูลการเบิกสินค้าออกจากคลัง
Process 4.2 เมื่อมีการเพิ่มข้อมูลจาก Process 3.1 แล้วเก็บบันทึกข้อมูลลงในแฟ้มข้อมูล Process 3.2 จะทำการนำข้อมูลที่ถูกบันทึกมาพิมพ์ใบเบิกสินค้าส่งกลับไปให้พนักงาน

โครงสร้างฐานข้อมูล ระบบคลังสินค้า ได้มีการจัดการสร้างตารางเพื่อสร้างความสัมพันธ์กันของข้อมูล โดยมีตารางดังต่อไปนี้


 ขั้นตอนที่ 5
การออกแบบ User Interface
  1.   หน้าเข้าสู่ระบบ
      2. หน้าเมนูหลัก
                1. เพิ่ม ลบ แก้ไขสินค้า
                2. เพิ่มข้อมูลการเบิกสินค้าออกจากคลัง
                3. เพิ่มข้อมูลการนำสินค้าเข้าเก็บในคลัง
                4. รายงานสรุปข้อมูลทั้งหมด
                  3.หน้าตาโปรแกรมเพิ่มลบแก้ไข
หน้าตาโปรแกรมที่สามารถทำการเพิ่มลบแก้ไขข้อมูลสินค้าได้โดยการกดปุ่มเพิ่มปุ่มลบและปุ่มแก้ไขโดย                 ข้อมูลที่เพิ่มจะต้องมีชื่อสินค้าราคาสินค้าจานวนสินค้าประเภทสินค้าสามารถกดปุ่มพิมพ์เอกสารเพื่อทำการ                  พิมพ์ อกสารออกมา
    

                   4. หน้าตาโปรแกรมการนำสินค้าเก็บในคลัง
                หน้าตาโปรแกรมการนำสินค้าเข้าเก็บในคลังจะเป็นการเพิ่มข้อมูลชื่อสินค้าที่จะนำเก็บในคลังจำนวนสินค้าโ              ดยจะสามารถเพิ่มลบแก้ไขได้และสามารถสั่งพิมพ์ได้
                      5.หน้าตาโปรแกรมการเบิกสินค้าออกจากคลัง
หน้าตาโปรแกรมการเบิกสินค้าออกจากคลังโดยการเพิ่มข้อมูลสินค้าที่จะนำออกจากคลังและสามารถเพิ่มลบ              แก้ไขรายการได้แล้วจะสามารถสั่งพิมพ์ได้

                       6.หน้าจอโปรแกรมสรุปข้อมูลทั้งหมด
โปรแกรมสามารถเรียกดูข้อมูลทั้งหมดได้โดยการกดปุ่มกำหนดข้อมูลเพิ่มดุข้อมูลที่ต้องการเลือกดูแล้ว                        สามารถพิมพ์ออกมาเป็นรายงานได้

ขั้นตอนที่ 6
การพัฒนาและติดตั้งระบบ
ทีมงานได้จัดทำเอกสารคู่มือการใช้งานโปรแกรมของระบบคลังสินค้าเพื่อช่วยให้ผู้ใช้ระบบสามารถเข้าใจการทำงานของโปรแกรมมากยิ่งขึ้นโดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
แนะนำโปรแกรมระบบรายรับ-รายจ่าย
    โปรแกรมระบบคลังสินค้าเป็นโปรแกรมที่ทาซึ่งประกอบด้วยระบบย่อยทั้งหมด 4 ระบบได้แก่
1.   ระบบการเพิ่มลบแก้ไขข้อมูลสินค้าของบริษัทสามารถเพิ่มลบแก้ไขบันทึกข้อมูลของสินค้าในคลังได้
2. ระบบการเพิ่มข้อมูลการเพิ่มสินค้าในคลังเพื่อเก็บข้อมุลการนำสินค้าเข้าเก็บในคลังจะทำให้ทราบถึงยอดการมีอยู่ของสินค้าในคลังว่ามีจำนวนเท่าไหร่
3. ระบบการเบิกสินค้าเป็นระบบที่จะออกใบเบิกสินค้าให้กับพนักงานโดยการเพิ่มข้อมูลลงในระบบจะทำการพิมพ์ใบเบิกสินค้าให้กับพนักงานและจัดเก็บข้อมูลการเบิกสินค้าลงฐานข้อมูล
4. ระบบสรุปรายงานเป็นระบบที่สามารถเรียกดูข้อมูลทั้งหมดในระบบและสามารถสั่งพิมพ์รายงานออกมาในรูปแบบรายงาน
การติดตั้งระบบทีมงานเลือกที่จะติดตั้งระบบแบบขนาน คือ การใช้ระบบใหม่และระบบเก่าไปพร้อมๆกันเพราะทีมงานที่พัฒนาระบบได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการดำเนินงานเพราะถ้าหาวางระบบใหม่ทั้งหมดทีเดียวอาจทำให้การดำเนินงานเกิดการขัดข้องได้จึงเลือกที่จะติดตั้งระบบแบบขนาน


ขั้นตอนที่ 7
การซ่อมบำรุง

การซ่อมบำรุงนั้นจะขึ้นอยู่กับผู้พัฒนาระบบว่าระบบนั้นมีปัญหาอะไรบ้าง และจะอยู่ในความควบคุมดูแลของผู้พัฒนาระบบมีการดูแลระบบอย่างต่อเนื่อง เมื่อระบบมีปัญหาทางผู้พัฒนาระบบจะทำการซ่อมแซมระบบอย่างรวดเร็วทันทีหลังเกิดปัญหา




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น